00000. การเชื่อมไม่เติมน้ำตาล ตอนที่ 1
วิศวกรรมการเชื่อมเน้น Certification มากกว่า Licensing
1. บทบาทของวิศวกรรมการเชื่อมในระดับสากล
ในระดับสากล วิศวกรรมการเชื่อม หรือ Welding Engineering ถือเป็นสาขาวิศวกรรมที่มีความเฉพาะทางมาก ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมทั่วไป ดังนี้
มาตรฐานวิศวกรรมการเชื่อมเน้น Certification มากกว่า Licensing
ในระดับสากล มีการกำหนดมาตรฐานและระบบรับรองความสามารถด้านการเชื่อม เช่น
- AWS (American Welding Society): เช่น CWI (Certified Welding Inspector), CWEng (Certified Welding Engineer)
- IIW (International Institute of Welding): เช่น IWE (International Welding Engineer)
- TWI (The Welding Institute): เช่น CSWIP (Certification Scheme for Welding and Inspection Personnel)
ใบรับรองเหล่านี้เน้น การทดสอบทักษะ ความรู้เชิงลึก และประสบการณ์ ซึ่งแตกต่างจาก กว. ที่เน้นบทบาทการควบคุมงานทั่วไป
วิศวกรรมการเชื่อมเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
สาขาวิศวกรรมการเชื่อมมักทำงานในอุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อน เช่น
- งานเชื่อมในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี (API 1104)
- งานโครงสร้างเหล็กกล้าขนาดใหญ่ (AWS D1.1)
- งานเชื่อมในอุตสาหกรรมยานยนต์และอวกาศ
วิศวกรเชื่อมที่ผ่านการรับรองสากล เช่น IWE หรือ CWEng จะได้รับการยอมรับในระดับโลกโดยไม่จำเป็นต้องมี กว.
ความแตกต่างระหว่าง Licensing กับ Certification
Licensing (ระบบใบอนุญาต เช่น กว. ในไทย) เน้นการควบคุมวิชาชีพและบทบาทวิศวกรในโครงการก่อสร้าง
Certification (ระบบรับรอง) เน้นการพิสูจน์ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน โดยมักใช้ในสาขาที่มีความซับซ้อน เช่น การเชื่อม, การตรวจสอบงานเชื่อม (NDT)
2. ปัญหาความเข้าใจผิดในประเทศไทย
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบทบาทของ กว.
หลายคนเข้าใจผิดว่างานเชื่อมเป็นหน้าที่ของวิศวกรโยธาหรือเครื่องกล และควรถูกควบคุมด้วย กว.
ในความเป็นจริง วิศวกรรมการเชื่อมมี มาตรฐานการรับรองเฉพาะด้านระดับสากล ซึ่งมีความน่าเชื่อถือกว่า
สังคมวิศวกรรมไทยบางส่วนยังไม่คุ้นเคยกับระบบการรับรองจาก AWS, IIW, หรือ TWI ทำให้เกิดความคิดว่าต้องรวมงานเชื่อมเข้ากับ กว.
ระบบการศึกษาในไทยยังไม่บูรณาการความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
หลักสูตรวิศวกรรมในไทยมักแยกส่วนวิชาความรู้ ทำให้วิศวกรทั่วไปขาดความเข้าใจในวิศวกรรมการเชื่อม
3. เหตุผลที่วิศวกรรมการเชื่อมไม่ควรอยู่ในระบบ กว.
งานเชื่อมต้องการความรู้และการรับรองเฉพาะทาง
ระบบ AWS CWI หรือ IIW IWE ครอบคลุมความรู้ที่ลึกซึ้งกว่า เช่น การวิเคราะห์ความเค้นในงานเชื่อม, การเลือกวัสดุ และการตรวจสอบคุณภาพ
Governing Body ที่เหมาะสมกว่า
วิศวกรรมการเชื่อมควรอยู่ภายใต้การรับรองของสมาคมวิชาชีพ เช่น สมาคมการเชื่อมแห่งประเทศไทย (Welding Society) มากกว่าสภาวิศวกร
เป็นไปตามแนวปฏิบัติสากล
ประเทศชั้นนำ เช่น สหรัฐฯ, เยอรมนี, ญี่ปุ่น ต่างก็ใช้ระบบ Certification เช่น AWS หรือ IIW ซึ่งเน้นการประเมินความรู้และทักษะที่แท้จริง
4. แนวทางที่ควรดำเนินการในประเทศไทย
ยกระดับการรับรองงานเชื่อมตามมาตรฐานสากล
ส่งเสริมให้วิศวกรเชื่อมในไทยสอบใบรับรอง เช่น CWI, IWE เพื่อนำมาตรฐานระดับสากลมาใช้
สร้างความเข้าใจในบทบาทของวิศวกรรมการเชื่อม
จัดสัมมนาและอบรมเพื่อให้วิศวกรโยธาและวิศวกรสาขาอื่นเข้าใจถึงความสำคัญของงานเชื่อม ส่งเสริมความร่วมมือกับองค์กรสากล
สมาคมการเชื่อมไทยควรร่วมมือกับ IIW, AWS เพื่อสร้างมาตรฐานและหลักสูตรที่เทียบเท่าระดับโลก
**สรุป
การบังคับให้วิศวกรรมการเชื่อมต้องอยู่ภายใต้ กว. ไม่มีความหมายในระดับสากล เนื่องจากงานเชื่อมต้องการ ระบบการรับรอง (Certification) ที่เน้นทักษะเฉพาะทางและมาตรฐานสากลมากกว่า การเดินหน้าพัฒนางานเชื่อมในไทยจึงควรมุ่งไปที่การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ยกระดับการรับรองตามมาตรฐานสากล เช่น AWS และ IIW ซึ่งจะช่วยให้วิศวกรเชื่อมไทยได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติได้ดียิ่งขึ้น
ที่มา : แชท GPT ที่เทรนโดยฉันเอง...